ในส่วนของนิทานไทยสมัยก่อนก็มีนิทานพื้นบ้านที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของพระเอกนางเอกที่ท้าทายกรอบแนวคิดแบบเดิม ๆ เช่นกัน แก้วหน้าม้า (ที่นางเอกมีหน้าเป็นม้า) และ เงาะป่า (ซึ่งพระเอกเป็นคนป่าผิวดำ หัวหยิกหยอง) แม้ตอนจบจะมีการถอดรูปจนกลับมาเป็นเจ้าหญิงแสนสวยและเจ้าชายรูปงามตามสูตรสำเร็จของนิทานทั่วไป แต่ความกล้าในการใช้ตัวละครเอกที่ไม่สวยไม่หล่อในตอนต้นเรื่อง ก็ถือว่าเป็นการท้าทายกรอบความคิดในสมัยก่อนเป็นอันมาก

ณ บึงใหญ่ในป่าแห่งหนึ่ง ห่านและนกกระสาชวนกันเดินท่องน้ำหาปลาเล็กปลาน้อยกินเป็นอาหาร...อ่านต่อ

จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับพ่อมดรูปงามคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้น 

เจ้าหญิงองค์ที่สามทรงขอพบเจ้าชายที่สถานพยาบาลของผู้ยากไร้ เจ้าหญิงทรงเป็นอาสาสมัครของสถานพยาบาลแห่งนี้มาหลายปีแล้ว  ระหว่างที่เจ้าหญิงทรงงานอยู่ พระองค์จะแลดูอบอุ่นและเป็นความหวังของเหล่าผู้ป่วยทุก ๆ คน  งานของเจ้าหญิงมีมากเสียจนเจ้าชายแทบจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหญิงอย่างที่พระองค์ทรงตั้งใจเอาไว้  อย่างไรก็ตาม เจ้าชายกลับรู้สึกว่า พระองค์ได้เห็นความงามที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใจของเจ้าหญิงพระองค์นี้อย่างยากที่จะลืมเลือนไปได้

คติสอนใจ : คนพาลย่อมไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น

วันหนึ่งคนเลี้ยงแกะกำลังนับแกะของเขาและพบว่ามีแกะจำนวนหนึ่งสูญหายไป...อ่านต่อ

"...เจ้าได้ละทิ้งความพยายามของเจ้าเสียแล้วล่ะหรือ...ความพยายามที่จะพิสูจน์

นางเอกเป็นเจ้าหญิงที่มักถูกล้อด้วยเรื่องรูปกายนอก นิทานรักของสองเรา ส่วนพระเอกเป็นเจ้าชายตุ๊กแก ที่มีรูปกายภายนอกน่ารังเกียจ ความย้อนแย้งของตัวละคร ความเฉลียวฉลาดของนางเอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณกาละแมร์ ทำให้ผมแต่งนิทานเรื่องนี้จบในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

นิทานความรักระหว่างภูเขากับคนจะลงเอยกันอย่างไร? คนแต่งนิทานขออุบเรื่องราวให้อ่านกันเองนะครับ

เขาก็เลยรู้สึกท้อใจ และคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่ 

นิทานอีสปเรื่อง : สุนัขจิ้งจอกกับฝูงเหลือบ

เรื่องราวเกิดขึ้นในดาวดวงหนึ่ง แต่ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น คือเกิดขึ้นที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง กิ่งไม้ฝั่งหนึ่งมีตัวละครฝ่ายชายอาศัยอยู่ ชื่อ “คูมูโจ้” ส่วนกิ่งไม้ฝั่งตรงข้ามมีตัวละครฝ่ายหญิงอาศัยอยู่ชื่อว่า “นีจิ”

นิทานอีสปเรื่อง : นักกระโดดแห่งเมืองโรดส์

ดึงขนจมูกเสี่ยงตาย! หมอเตือน "สามเหลี่ยมแห่งความตๅย" บนใบหน้า